การเผชิญความเครียด เป็นกลไกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะปัจจุบันจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น ทำให้หลายคนมีภาวะเครียดและมีการตอบสนองต่ออาการเครียดที่แตกต่างกันไป
ผู้ที่มีการเผชิญกับความเครียดได้อย่างเหมาะสมจะสามารถแก้ไขปัญหาและผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดี ในทางตรงกันข้ามหากไม่สามารถเผชิญกับความเครียดที่เกิดขึ้นหรือมีกลไกการจัดการความเครียดที่ไม่เหมาะสม ย่อมทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตตามมา
กลวิธีการจัดการความเครียด จำแนกได้เป็น 2 รูปแบบ
1.การจัดการความ เครียดโดยตรง เป็นความพยายามของบุคคลในการจัดการกับอันตราย การคุกคามหรือสิ่งท้าทาย โดยการมีปฏิกิริยาตอบโต้สถาน การณ์ที่เกิดขึ้น แบ่งเป็น 4 รูปแบบ
1.1 การเตรียมตัวต่อสู้กับสิ่งที่มาคุกคาม
1.2 การใช้ความก้าวร้าว
1.3 การหลีกหนี
1.4 การนิ่งเฉย
2.การจัดการความเครียดโดยทางอ้อม คือบรรเทาความเครียดที่เกิดจากการคุกคาม
2.1 การบรรเทาอาการโดยตรง โดยใช้ยาต่างๆ
2.2 การบรรเทาภาย ในจิตใจ คือการบรรเทาความ เครียดโดยการใช้กลไกทางจิตในการป้องกันตนเอง
วิธีการเผชิญกับความ เครียดมีอยู่ 5 วิธี (La zarus & Folkman, 1984) คือ
1.การแสวงหาข้อมูล เป็นความพยายามที่จะเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไข
2.การกระทำโดยตรง เป็น การกระทำไม่ใช่ความนึกคิดเพื่อที่จะจัดการกับเหตุการณ์ที่ประเมินตัดสินว่าเป็นความเครียด
3.การหยุดยั้งการกระทำตรงข้ามกับการกระทำโดยตรง คือไม่กระทำอะไรเลย หยุดกระทำในกิจกรรมที่คิดว่าเป็นอันตราย
4.การแสวงหาความช่วยเหลือหรือแรงสนับสนุนทางสังคมจากบุคคลในเครือข่ายรอบข้าง
5.การใช้กลไกทางจิต เป็น กระบวนการความนึกคิดที่ต้อง การปรับอารมณ์ให้รู้สึกดีขึ้น ซึ่งรวมถึงการประเมินเหตุการณ์เสียใหม่ เบี่ยงเบนความสนใจ แสวงหาความพอใจจากสิ่งอื่น รวมทั้งการใช้กลไกป้องกันตัวเอง เช่น การปฏิเสธหรือการเก็บกด
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาและภาวะเครียด หากเรามีกลไกการเผชิญปัญหาได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ เชื่อว่าบุคคลนั้นย่อมสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และเป็นอีกหนึ่งคนที่สามารถส่งเสริมการมีสุขภาพจิตที่ดีให้กับตนเอง การบรรเทาภายในจิตใจ คือการบรรเทาความเครียด โดยการใช้กลไกทางจิตในการป้องกันตนเอง
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้วันสุข
อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/37867