Angthong Hospital

  • 035 615 111
  • 035 612 151

ประกาศ, ประชาสัมพันธ์, รายงานและบทความ

ณัฐธภัสสร รัศมีสุขสรร 27 มิ.ย. 2557

เอกสารแนบ

/data/content/24839/cms/e_aefkoruvxy67.jpg

          โครงการภาคเหนือสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เตือนผู้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรจะใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเกิน  2 ครั้ง ในชีวิต

          นางทัศนีย์ ศรีมงคล ผู้อำนวยการโครงการภาคเหนือสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวถึงยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันว่า แท้จริงแล้วไม่ใช่ยาแต่เป็นฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งสูงกว่ายาคุมกำเนิดโดยทั่วไปถึง 2 เท่า เมื่อผู้ใช้รับประทานเข้าไปก็จะไประงับการตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงมาก แต่ขณะเดียวกันก็จะมีผลข้างเคียงต่อสตรีที่รับยานี้ ดังนั้น จึงมีการกำหนดให้ใช้ยานี้ยามฉุกเฉินเท่านั้น กล่าวคือใช้ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ หรือในกรณีที่ถูกข่มขืนเพื่อไม่ให้ตั้งครรภ์ แต่ขณะนี้ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่หลายคนมีการนำยานี้ไปใช้โดยขาดความรู้ความเข้าใจ

          “พอเห็นว่าสามารถคุมการตั้งครรภ์ได้ดีก็ใช้ยาตัวนี้ คือขี้เกียจกินยาคุมกำเนิด เพราะยาคุมกำเนิดจะต้องกินทุกวัน ก็ใช้ตัวนี้แทน พอมีเพศสัมพันธ์เสร็จก็ทานยาตัวนี้ ซึ่งจะต้องทานหลังร่วมเพศไม่เกิน 72 ชั่วโมง ถ้าเกิดว่าสัปดาห์หนึ่งมีเพศสัมพันธ์ 3 หน จะต้องทานยาตัวนี้ 3 ครั้ง เดือนหนึ่งตั้งเป็นสิบๆ ครั้ง แปลว่าผู้หญิงคนนี้ได้รับฮอร์โมนสูงมาก จะเป็นอันตรายกับตัวเขา”

          นางทัศนีย์กล่าวอีกว่า จากข้อมูลจากแพทย์ระบุว่า ในชีวิตไม่ควรจะใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเกิน  2 ครั้ง เพราะจะมีผลกับร่างกายของผู้หญิง เช่น การกระตุ้นเซลล์มะเร็ง หรือกระทบต่อรังไข่ มดลูก และร่างกายทั่วไป แม้เมื่อกินมากกว่า 2 ครั้งจะไม่มีผลรุนแรงทันทีทันใด รวมทั้งการวิจัยถึงผลกระทบยังไม่ชัดเจนเพราะต้องใช้เวลาในการศึกษา แต่การที่ร่างกายรับสิ่งใดมากเกินไปย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน ซึ่งในทางการแพทย์ควรป้องกันไว้ก่อน

          นางทัศนีย์กล่าวต่อไปว่า ตนได้ไปบรรยายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กผู้หญิงชั้น ม.5 คนหนึ่งมาเล่าให้ตนฟังว่ามีแฟนเป็นทหารอากาศ ซึ่งแฟนมารับไปนอนด้วยทุกวัน พอนอนด้วยเสร็จแล้วผู้ชายก็ให้กินยาเม็ดขาวๆ เม็ดหนึ่ง อยากจะรู้ว่าเป็นยาอะไร ซึ่งตนทราบว่ายาเม็ดสีขาวดังกล่าวเป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และเด็กผู้หญิงนั้นถูกผู้ชายหลอกให้รับประทาน

          “คิดดูนะคะ กินยาคุมกำเนิดทุกวัน พอถึงระยะหนึ่งเรายังต้องเปลี่ยนเลย ผู้หญิงที่ทานยาเม็ดคุมกำเนิดหรือฉีดยา หรือรับอย่างใดอย่างหนึ่งไปภายในไม่เกิน 10 ปีต้องเปลี่ยนวิธีแล้ว แต่นี่เด็กผู้หญิงซึ่งยังเด็กด้วยซ้ำไป ถ้าทานยานี้ทุกวันๆ จะเกิดอะไรขึ้น”นางทัศนีย์กล่าว และระบุว่านี่เป็นเพียงหนึ่งรายที่ตนบังเอิญไปพบเท่านั้น หากมีอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่รู้ก็จะมีการใช้ยานี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีราคาถูกเพียงกล่องละ 35 บาทและหาซื้อได้ทั่วไป ดังนั้นจึงควรมีการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป

          จากเอกสาร“ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน”ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าในกล่องยาคุมฉุกเฉิน 1 กล่องจะมียา 2 เม็ด ผู้ใช้ต้องกินทั้ง 2 เม็ด โดยกินเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ และกินเม็ดที่สองเมื่อครบ 12 ชั่วโมงหลังจากกินเม็ดแรกแล้ว ทั้งนี้ไม่สามารถทำให้เกิดการแท้งหรือทำอันตรายแก่เด็กในครรภ์หากเกิดการตั้งครรภ์แล้ว อย่างไรก็ตามในเอกสารดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าให้กินได้ไม่เกิน 2 ครั้งในชีวิตแต่อย่างใด

          บรรยายใต้ภาพ: พบวัยรุ่น-ผู้ใหญ่ใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบไม่รู้จริง กินประจำแทนยาคุมธรรมดา เพราะขี้เกียจ หาง่าย ราคาถูก หวั่นมีเพิ่มสูงขึ้น แพทย์ชี้ไม่ควรใช้ "ยาคุมฉุกเฉิน เกิน 2 ครั้งในชีวิต เพราะเสี่ยงต่อมะเร็งและผลข้างเคียงต่อร่างกาย ย้ำใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น แฉเคยมีเด็กถูกแฟนหลอกให้กินหลังมีเพศสัมพันธ์

 

 

          ที่มา: สำนักข่าวสปริงนิวส์

อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/Content/24839-'ยาคุมฉุกเฉิน'%20ไม่ควรใช้เกิน%202%20ครั้งในชีวิต.html