Angthong Hospital

  • 035 615 111
  • 035 612 151

ประกาศ, ประชาสัมพันธ์, รายงานและบทความ

ณัฐธภัสสร รัศมีสุขสรร 4 ก.ค. 2557

เอกสารแนบ

/data/content/24918/cms/e_bdglmpsuz268.jpg

          กพย.เตือนปัญหาใช้ยาในโรงเรียนเสี่ยงอันตราย

          วันที่ 3 กรกฎาคม  ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) เปิดเผยว่า จากการติดตามและเฝ้าระวังระบบยาในชุมชนที่ผ่านมา พบว่า โรงเรียนเป็นอีกสถานที่ที่ต้องระวังในเรื่องการยา โดยรูปแบบการยาในโรงเรียนจะมี 2 รูปแบบ คือ 1. ยาในโรงเรียนจัดหาเป็นยาสามัญทั่วไป และ 2. ยาที่เด็กนักเรียนพกมา เนื่องจากมีอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว โรคเรื้อรังต่างๆ โดยเฉพาะโรคหอบหืด ปัญหาคือ ที่ผ่านมาไม่มีใครมาตรวจสอบว่ายาในโรงเรียนมีกี่รายการ และมียาปฏิชีวนะร่วมด้วย อย่างยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ไอ ซึ่งตรงนี้หากไม่มีการควบคุมการใช้จะเป็นปัญหาจากการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น

          นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องระบบจัดหายา ซึ่งมาจากส่วนกลาง และในพื้นที่ โดยในพื้นที่คือ บางโรงเรียนมีการจัดการดีก็จะพบว่าได้ให้โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) มาช่วยแนะนำและจัดหายาในโรงเรียน แต่บางโรงเรียนอาจให้แค่เภสัชกรประจำโรงพยาบาลเข้ามาแนะนำเท่านั้น ขณะที่เภสัชกรบางคนก็ไม่สนใจในการติดตามการใช้ยาในโรงเรียนอีก

          ส่วนบางโรงเรียนอาจใช้วิธีการจัดหายาจากส่วนกลาง คือ ทางกระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินการจัดส่งให้ เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะหากการจัดส่งยาไม่มีการจัดเก็บอย่างดี อาจส่งผลต่อคุณภาพยาด้วย ส่วนยาที่เด็กนักเรียนพกมา เนื่องจากเป็นโรคประจำตัว แต่ต้องให้ทางโรงเรียนเก็บไว้ให้นั้น ประเด็นอยู่ที่ครูพยาบาลประจำห้องพยาบาลจะเข้าใจตัวยามากน้อยแค่ไหน และหากให้รับประทานไม่ตรงเวลาก็อาจส่งผลต่อเด็ก

          “จากปัญหาทั้งหมดสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะต้องร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ใส่ใจเรื่องนี้โดยมีการจัดระบบยาให้ถูกต้องได้มาตรฐาน กล่าวคือ การจัดหายาจะต้องมีเภสัชกรดำเนินการให้ และตรวจสอบการใช้ยาจริง โดยจะต้องมีการฝึกอบรมครูพยาบาลให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ โดยเรื่องนี้ต้องร่วมมือกันและจัดทำเป็นนโยบายที่ชัดเจนนำไปสู่การปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีระบบติดตามประเมินผลที่มีประสิทธิภาพด้วย”

          ผศ.ภญ.นิยดา กล่าวอีกว่า การจัดการระบบยาที่ดีในโรงเรียน ในต่างประเทศมีการดำเนินการแล้ว อย่างสหรัฐอเมริกา ได้ออกกฎหมายกำหนดให้โรงเรียนต้องจัดหาบริการสุขภาพที่จำเป็นสำหรับเด็กที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง รวมทั้งเด็กพิการ รวมถึงเรื่องการจ่ายยาด้วย จากกฎหมายดังกล่าวทำให้แต่ละรัฐมีการออกแนวทางต่างๆ ส่งผลให้แต่ละโรงเรียนต้องมากำหนดกฎเกณฑ์ภายในโรงเรียนเกี่ยวกับการดูแลการใช้ยาของนักเรียนกลุ่มเฉพาะ โดยโรงเรียนส่วนใหญ่จะมีคณะกรรมการโรงเรียนที่มีบุคลากรสาธารณสุขให้คำแนะนำในเรื่องการดูแลการใช้ยาให้เกิดความปลอดภัยด้วย

 

 

          ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์

          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/Content/24918-เฝ้าระวังการใช้ยาในโรงเรียน%20เสี่ยงอันตราย.html