สธ. เตือนประชาชนเฝ้าระวังโรคปอดบวม ในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะบางพื้นที่อากาศเริ่มหนาวเย็น ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลร่างกายให้อบอุ่น
นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้บางพื้นที่อากาศเริ่มหนาวเย็น และบางพื้นที่ยังมีฝนตกอยู่ อาจทำให้ผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง หรือมีภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า5ปีรวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง ไตวาย เป็นต้น เสี่ยงป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจได้ง่าย ที่พบมากเช่น ไข้หวัด และที่น่าห่วงก็คือ โรคปอดบวม ซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนที่มักเกิดตามมาหลังจากเป็นไข้หวัด มักพบมากในช่วงฤดูฝน และช่วงปลายฝนต้นหนาวโดยโรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมดผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากมีโรคเรื้อรังควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
จากการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในช่วงฤดูฝน 5 เดือนในปี 2556 นี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยโรคปอดบวม 63,037 คน เสียชีวิต 283 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก แม้ว่าสถานการณ์ยังไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมาแต่ปีนี้มีระยะเวลาฤดูฝนนานอาจทำให้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่และโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย กระทรวงสาธารณสุขจึงได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังโรคหน้าฝนในพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เข้าไปดูแลสุขภาพประชาชนที่ประสบภัยอย่างทั่วถึง
ในการป้องกันโรคปอดบวม ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าหลายชั้นให้ร่างกายอบอุ่นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เนื่องจากในผักและผลไม้สดจะมีวิตามินซี สร้างภูมิต้านทานโรคได้พักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงการคลุกคลีและใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย และใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ถ้าเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่คนแออัด หมั่นล้างมือให้สะอาดภายหลังสัมผัสสิ่งของหรือผู้ป่วย ผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/37203