Angthong Hospital

  • 035 615 111
  • 035 612 151

ประกาศ, ประชาสัมพันธ์, รายงานและบทความ

ธนิกุล ศรีอุทิศ 17 ธ.ค. 2556

เอกสารแนบ

เมื่อพ่อแม่มีความคาดหวังสูงว่า ลูกของตนจะต้องสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ จุดนี้อาจเป็นภาระความกดดันให้แก่ลูก เด็กเสี่ยงนซึมเศร้า-วิตกกังวล...

พ.ญ.ทิพาวรรณ บูรณสิน จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นชำนาญการ ประจำสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนี้วัยรุ่นใกล้การสอบเอนทรานซ์ เพื่อเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา ซึ่งความคาดหวังเรื่องการเรียนของพ่อแม่เป็นเหมือนกันทุกบ้าน บางคนคาดหวังโดยไม่เข้าใจศักยภาพของลูกว่ามีมากน้อยแค่ไหน กลายเป็นความกดดันให้ลูก ขณะเดียวกันเด็กทุกคนต้องการการยอมรับจากพ่อแม่ และหากพ่อแม่มีความคาดหวังมาก เด็กพยายามทำเต็มที่แล้ว แต่ผลออกมาได้ไม่ดีตามที่คาดหวัง ก็เกิดความกดดัน เสี่ยงเรื่องความซึมเศร้า วิตกกังวล

พ.ญ.ทิพาวรรณ กล่าวต่อว่า พ่อแม่ที่มีลูกวัยรุ่นมักเจอกับปัญหาความไม่เข้าใจกัน เพราะวัยห่างกัน อาจจะทำให้เด็กไม่กล้าที่จะปรึกษา ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่ต้องทำอย่างแรกเมื่อลูกเดินเข้ามาปรึกษาปัญหา คือ 1.ต้องให้เวลาลูก 2.ตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกพูด ฟังโดยใช้สติ ไม่ด่วนตัดสิน อย่าใช้อารมณ์ 3.ให้กำลังใจและหาทางออกให้เด็กเมื่อเด็กต้องการ สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือ อย่าพูดคำว่าเดี๋ยว เพราะวัยรุ่นอาจจะรอไม่ได้ และหากเด็กไม่ได้รับคำปรึกษาจากพ่อแม่แล้ว เด็กก็จะหันไปปรึกษาเพื่อนๆ แทน และอาจจะได้ทางออกในทางที่ไม่เหมาะสม หรือในกรณีที่เด็กอาจรู้สึกผิดอยู่แล้ว และเมื่อปรึกษาพ่อแม่แล้วโดนตำหนิกระหน่ำซ้ำเติม ครั้งต่อไปเด็กก็จะปิดบัง ไม่บอก หรือหันไปต่อต้านพ่อแม่ ทำตามเพื่อนในทางที่ไม่ดี

ดังนั้นพ่อแม่จึงเป็นบุคคลที่สำคัญมากในการเป็นที่ปรึกษา ช่วยลดความเครียดให้เด็ก ทั้งนี้ มีงานวิจัยพบว่าเด็กที่ถูกทำโทษหรือครอบครัวใช้ความรุนแรงตั้งแต่วัยเด็ก จะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ ที่สำคัญคือ ส่งผลกระทบต่อสติปัญญา อารมณ์ สมาธิ และความจำได้

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

 
อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/38067