Angthong Hospital

  • 035 615 111
  • 035 612 151

ประกาศ, ประชาสัมพันธ์, รายงานและบทความ

ณัฐธภัสสร รัศมีสุขสรร 31 มี.ค. 2557

เอกสารแนบ

 เคยพูดถึงโรคกรดไหลย้อนกันหลายเที่ยวหลายครา แต่ยังมีคนไข้เข้ามาไถ่ถามวิธีการรักษาอย่างสม่ำเสมอ หลายท่านมาถกเถียงว่า ไม่ได้เป็นโรคกรดไหลย้อน แต่เป็นโรคกระเพาะ โรคลำไส้แปรปรวน โรคท้องผูก บ้างก็บอกว่าเป็นโรคหัวใจ โรคเครียด จึงได้มีโอกาสได้อธิบายเรื่องโรคกรดไหลย้อนในวันหนึ่งหลายๆ รอบ

 

/data/content/23603/cms/adgijkprsz16.jpg

          ขอรวบรวมการเดินทางของโรค "กรดไหลย้อน" ออกเป็น 3 ระยะว่าโรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อาการแต่ละระยะเป็นอย่างไร แล้วจะต้องปรับปรุงพฤติกรรมอย่างไร สามารถทานสมุนไพรชนิดใดได้บ้าง เพื่อให้หายจากอาการอันแสนทรมานนี้

           โรคกรดไหลย้อนในบทความนี้หมายถึง กระบวนการย่อยอาหารที่ไม่สมบูรณ์จนเกิดปัญหาขึ้น แบ่งเป็นระยะตามความหนักของอาการที่สร้างปัญหากับร่างกาย

          กรดไหลย้อน ระยะที่ 1 โรคกระเพาะอาหาร คือโรคกรดไหลย้อนระยะแรกๆ นั่นเอง

          วิธีการรักษา ทานอาหารให้ตรงเวลา โดยเฉพาะการทานอาหารเช้าไม่ควรเกิน 9 โมงเช้า ก่อนทานอาหารสามารถทาน ขมิ้นชัน ขิง หรือ พริกไทยดำ ก่อนอาหารทุกมื้อ10 นาทีประมาณ 2 แคปซูล เพื่อให้กระเพาะอาหารได้รับธาตุไฟเพิ่มขึ้นจนกลับมาแข็งแรงย่อยอาหารต่างๆ ได้ดี หากมีลมในท้องมากให้ทานยาหอมเข้มๆ เพื่อขับลมออกไป

          กรดไหลย้อน ระยะที่ 2 ลำไส้มีขยะอยู่มาก เมื่อกระบวนการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์เป็นเวลานานจะเกิดอาหารที่ย่อยได้ไม่หมดตกค้างอยู่ในลำไส้ปริมาณมาก ผู้ป่วยจะมีอาการจุกแน่น  เริ่มมีกลิ่นปาก ผายลมเหม็น มีลมในท้องได้ตลอดเวลา ขับถ่ายไม่ตรงเวลา หรืออาจจะมีอาการท้องผูกเรื้อรังร่วมด้วย

          วิธีการรักษา ต้องขับอุจจาระออกอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความแข็งแรงให้กระเพาะอาการและเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดี (Probiotics) เข้าสู่ลำไส้ เพื่อลดการเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่ไม่ดี (ใช้เวลารักษาประมาณ 2 เดือน)

         1. ขับอุจจาระออก โดยทานยาธรณีสัณฑะฆาต (ยากษัยเส้น) ขับลมและอุจจาระออกโดยการทานก่อนนอน 2-3 แคปซูล หรือทำการ Detox แบบสวนประมาณ 1 สัปดาห์ติดต่อกัน

         2. เพิ่มความแข็งแรงให้กระเพาะอาหาร ด้วยขมิ้นชัน  ขิง  พริกไทยดำ จะทานพร้อมกันหรือแยกทานอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ทานก่อนอาหาร 15 นาทีเพื่อเพิ่มธาตุไฟในการย่อยอาหารให้กับกระเพาะอาหาร

         3. เติมจุลินทรีย์ที่ดีเข้าสู่ลำไส้ โดยการทานน้ำหมักชีวภาพ หรือ Probiotic แบบผง หลังอาหารทุกมื้อให้จุลินทรีย์ที่ดีเข้าสู่ลำไส้ไปควบคุมไม่ให้จุลินทรีย์ที่ไม่ดีมีปริมาณมากเกินไป

          เมื่อลมและอุจจาระในลำไส้ไม่มากเกินไป จะทำให้ลมในลำไส้ที่พัดดันขึ้นสู่กระเพาะอาหารและหลอดอาหารน้อยลง ลดอาการจุกแน่นที่ท้องรวมถึงลดอาการแสบร้อนช่วงอกของผู้ป่วยได้

          กรดไหลย้อนระยะที่ 3 สารอาหารในเลือดเหลือน้อย จากกระบวนการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์เป็นเวลานาน จนทำให้อ่อนเพลีย หมดแรง มึนศีรษะบ่อย จุกแน่น แสบร้อนช่วงอกมากขึ้น ทานอาหารไม่ค่อยลงแต่มีอาการหิวบ่อย เม็ดเลือดของผู้ป่วยระยะนี้จะมีขนาดเล็กลงจนทำให้ออกซิเจนและน้ำในเลือดน้อยลงตามไปด้วย ผู้ป่วยจะมีอาการนอนหลับไม่สนิท ปากแห้ง ลิ้นแห้ง หายใจได้ไม่เต็มปอด

          วิธีการรักษา ควรเพิ่มสารอาหารในเลือดให้มากพอ ร่วมกับการปรับปรุงกระเพาะอาหาร ลำไส้ (ใช้เวลารักษาประมาณ 3 เดือน)

         1. เติมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือดด้วยอาหารที่ย่อยสลายได้เร็ว เช่น สาหร่ายเกลียวทอง โสม กระชาย ธัญพืชชง ฯลฯ ทานทุกๆ เช้าตอนตื่นนอนเพื่อสร้างเม็ดเลือดให้พร้อมใช้งาน

          2.ปรับปรุงการย่อยอาหารด้วยการเติมธาตุไฟให้กระเพาะอาหาร และเติมจุลินทรีย์ที่ดีเข้าสู่ลำไส้เหมือนกับโรคกรดไหลย้อนระยะที่ 2  ผู้ป่วยกรดไหลย้อนที่เดินทางมาถึงระยะนี้เกิดจากพฤติกรรมที่ทำให้สารอาหารในเลือดน้อยลงอย่างรวดเร็ว เช่น การนอนดึกตีหนึ่งตีสองแทบทุกคืน ดื่มกาแฟแทนอาหารเช้าเป็นกิจวัตร ทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน หากไม่ปรับปรุงพฤติกรรมร่างกายจะบังคับตัวเราให้หยุดทำงานด้วยอาการ "บ้านหมุน" จนยืนอยู่ไม่ได้

          พฤติกรรมที่ไม่ควรทำ สำหรับผู้ที่มีปัญหากับระบบย่อยอาหารไม่ว่าระยะใดก็ตาม คือ ลดการทานน้ำเย็น น้ำอัดลม นม ชาเย็น ชาเขียว น้ำเต้าหู้ น้ำมะพร้าว ให้ได้มากที่สุด งดการทานอาหารมื้อดึก งดการทานกาแฟเพราะทำให้น้ำย่อยของเราออกมาไม่ตรงเวลา งดการทานยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะเป็นเวลานาน เพราะทำให้น้ำย่อยของเราขาดประสิทธิภาพ หันมาทานอาหารสดใหม่ เช่น ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว เคี้ยวอาหารให้นานขึ้น  เนื่องจากการเคี้ยวสัมพันธ์กับการบีบตัวของกระเพาะอาหารของเรา เมื่อกระบวนการย่อยดีลมใหม่ๆ ไม่เกิด ลมและอุจจาระเก่าๆ หายไป โรคกรดไหลย้อนจะทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด

 

 

          ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/Content/23603-กรดไหลย้อน%203%20ระยะ%20กับการรักษา.html