Angthong Hospital

  • 035 615 111
  • 035 612 151

ประกาศ, ประชาสัมพันธ์, รายงานและบทความ

ณัฐธภัสสร รัศมีสุขสรร 19 พ.ค. 2557

เอกสารแนบ

/data/content/23990/cms/e_acefhiltx236.jpg

กรมอนามัยแนะกินหน่อไม้สด ดีกว่าหน่อไม้ดองหรือหน่อไม้ปี๊บ เหตุให้พลังงานและไขมันน้อยกว่า แถมมีแคลเซียมสูง ระบุหน่อไม้ปี๊บผ่านการดอง ทำให้สูญเสียแคลเซียม ระบุก่อนกินต้องต้มสุกนาน 20-30 นาที จึงปลอดจากเชื้อและสารอันตราย

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีพบผู้ป่วยได้รับเชื้อคลอสทริเดียม โบทูลินัม จากการกินหน่อไม้ปี๊บลวกบรรจุถุง ซึ่งอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ อยากแนะนำว่า จริงๆ แล้ว การกินหน่อไม้สดจะได้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าและให้พลังงานน้อยกว่าหน่อไม้ดองหรือหน่อไม้ปี๊บ เนื่องจากการดองหรือการถนอมอาหารจะทำให้สูญเสียวิตามินไปกับน้ำและความร้อน โดยหน่อไม้สด 100 กรัม ให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี ไขมัน 0.2 กรัม ในขณะที่หน่อไม้ดอง ให้พลังงาน 47 กิโลแคลอรี ไขมัน 0.9 กรัม นอกจากนี้ หน่อไม้สดยังมีแคลเซียม 49 มิลลิกรัม ขณะที่หน่อไม้ดองสูญเสียแคลเซียมแทบทั้งหมด แต่เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารอย่างครบถ้วนควรเลือกกินผักให้หลากชนิดหลากสีสันและอย่างน้อยมื้อละ 2 ทัพพี

นพ.พรเทพ กล่าวว่า การซื้อหน่อไม้มาปรุงอาหารเองต้องล้างให้สะอาดและนำมาต้มให้สุก โดยนำหน่อไม้สดมาต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 20 - 30 นาที จำนวน 1 ครั้ง สำหรับหน่อไม้ดองต้องต้ม 15 - 20 นาที จำนวน 2 ครั้ง จากนั้นจึงเทน้ำต้มทิ้งก่อนนำมาปรุงประกอบอาหาร เพื่อป้องกันการได้รับเชื้อโบทูลินัม และยังสามารถลดปริมาณสารไซยาไนด์ได้ถึง 100%

“เชื้อโบทูลินัมสามารถพบได้ในเครื่องกระป๋องทุกชนิด ผู้บริโภคจึงควรเลือกซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมาย อย. และอ่านฉลากข้างกระป๋องที่มีชื่อ สถานที่ผลิต วัน เดือน ปีที่ผลิตและหมดอายุ ชื่อปริมาณวัตถุเจือปนในอาหาร น้ำหนักสุทธิ และลักษณะกระป๋องต้องไม่บวม ไม่บุบ ไม่เป็นสนิม ตะเข็บกระป๋องต้องไม่มีรอยแตกรั่ว เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อโบทูลินัมที่มีฤทธิ์ในการทำลายระบบประสาทมองเห็นภาพซ้อน ตาพล่ามัวมองเห็นภาพได้ไม่ชัด หนังตาตก พูดไม่ชัด กลืนอาหารลำบาก ปากแห้ง และกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งอาการจะแสดงให้เห็นภายใน 2-4 ชั่วโมง หรือ 12-36 ชั่วโมง หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจเสียชีวิตด้วยระบบหายใจล้มเหลว ดังนั้นหากพบอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

นพ.พรเทพ กล่าวว่า สำหรับผู้ผลิตหน่อไม้ปี๊บต้องขออนุญาตผลิตอาหารให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากพบว่าไม่ได้รับใบอนุญาตให้ตั้งโรงงานจะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้จำหน่ายต้องจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุญาตจาก อย.เท่านั้น โดยหน่อไม้ปี๊บต้องมีฉลากถูกต้อง ระบุชื่อสถานที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตหรือวันเดือนปีที่หมดอายุ ส่วนภาชนะบรรจุต้องเป็นปี๊บใหม่ ไม่มีรอยบัดกรีฝา ตัวปี๊บไม่มีรอยบุบ บวม รั่ว รวมทั้งไม่ควรซื้อหน่อไม้ที่มีก้นปี๊บดำจากการเผาไหม้โดยตรงกับเปลวไฟ เพราะจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของโลหะหนักจากภาชนะบรรจุซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้

 

 

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์       

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต 

อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/Content/23990-กินหน่อไม้สด%20แคลเซียมสูง%20พลังงาน-ไขมันต่ำ%20ดีกว่าหน่อไม้ปี๊บ.html