Angthong Hospital

  • 035 615 111
  • 035 612 151

ประกาศ, ประชาสัมพันธ์, รายงานและบทความ

ธนิกุล ศรีอุทิศ 7 พ.ย. 2556

เอกสารแนบ

มีผลการวิจัยพบว่าเด็กนักเรียนที่กินอาหารเช้าไปโรงเรียนจะเรียนและทำงานได้ดีกว่าเด็กที่ไม่กินอาหารเช้า ซึ่งจะเหนื่อยเร็วกว่า หงุดหงิดง่ายกว่า และจะมีปฏิกิริยา ตอบโต้กับสิ่งต่าง ๆ ได้ช้ากว่าด้วย เรื่องนี้เป็นจุดที่ทำให้ทางโรงเรียน (เริ่มตั้งแต่เด็กอนุบาล) ของอเมริกา หันมาให้ความสนใจกับพฤติกรรมการกินอาหารเช้าของครอบครัวเด็ก ๆ ถึงขั้นจัดให้เดือน กันยายนเป็น "Better Breakfast Month" (เดือนแห่งการกินอาหารเช้าที่ดีขึ้น) กันทีเดียว

เมื่อเด็กไทยไม่กินอาหารเช้า

รศ.พญ.อุมาพร สุทัศน์วรวุฒิ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนบำบัด โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า พบเด็กที่มาตรวจ ไม่ได้กินอาหารเช้าอยู่ในปริมาณที่สูงมาก หรือบางคนกินอาหารเช้าที่ไม่เหมาะ เช่น กินน้ำอัดลม ซึ่งไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลยกับร่างกายในเวลาเช้า ที่ต้องการสารอาหารไปเติมท้องที่ว่างเปล่ามาจากกลางคืน ทั้งที่ความจริงแล้วอาหารมื้อเช้าควรเป็นอาหารที่มีคุณค่าเทียบเท่าอาหารมื้ออื่นๆ ไม่ใช่สักแต่กิน

นอกจากนี้คุณหมออุมาพรบอกว่า เด็ๆ ที่มาหาคุณหมอนั้นมักมีน้ำหนักน้อย ไม่ค่อยกระฉับกระเฉงอย่างที่ควรจะเป็น เพราะคุณค่าอาหารที่ควรจะได้รับ หายไปหนึ่งมื้อ เหลือแค่วันละ 2 มื้อแกจึงผอม หรือเด็กบางคนปิดเทอมแล้วผอมลงเลย เพราะตื่นสาย ไม่ได้กินข้าวเช้า ตื่นมาอีกทีก็เกือบเป็นมื้อเที่ยงแล้ว ฯลฯ พ่อแม่จึงควรเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารมื้อเช้ากันได้แล้ว

(คุณหมอบอกว่าจริง ๆ แล้วพ่อแม่เองก็ไม่ควรไม่กินอาหารเช้า เพราะเมื่อทำงานจะเกิดอารมณ์หงุดหงิดง่าย มองโลกในแง่ร้าย ความคิดไม่เป็นเหตุเป็นผล ฯลฯ หากคุณแม่คนไหนอยากลดความอ้วน เชิญตัดอาหารเย็นออกไปได้เลยค่ะ การตัดอาหารเช้าออกไปรังแต่จะเกิดผลเสียกับร่างกาย)

รีบเร่งแค่ไหนก็ต้องกิน

สาเหตุที่เด็กไม่กินอาหารเช้า ส่วนใหญ่เกิดจากความเร่งรีบแข่งกับเวลา พ่อแม่เลยเลือกที่จะไม่กิน หรือบางบ้านพ่อแม่อาจทานกาแฟถ้วยเดียว เมื่อพ่อแม่ไม่ให้ความสำคัญกับอาหารมื้อนี้ ทำให้ลูกพลอยไม่ได้กินไปด้วย อย่างดีมีแค่นมกล่องหนึ่งรองท้อง ซึ่งสำหรับเด็กวัยต้องใช้พลังมากแบบนี้ ไม่พอแน่นอนค่ะ

คุณแม่บางคนบอกว่า ลูกไม่ยอมกิน นั่นเป็นเพราะวิถีชีวิตแบบเร่งรีบไปกดดันให้เวลากินข้าวเป็นเวลาที่ดูจะไม่มีความสุข พ่อแม่คอยเร่งอยู่ หรือไม่พ่อแม่ไม่กินเป็น ตัวอย่าง ลูกก็ไม่กินตาม หากไม่มีเวลากินที่บ้านจริงๆ แทนที่จะเร่งลูกจนแกไม่มีความสุขขณะกิน ก็อนุโลมว่าไปกินกันบนรถดีกว่าค่ะ หรือจะลองตื่นเช้ากว่าเดิมอีกสัก 15 นาที ก็จะมีเวลามากขึ้น

สิ่งสำคัญ พ่อแม่ต้องหัดลูกตั้งแต่แรก ๆ ทำให้การกินอาหารเช้าเป็นกิจวัตรประจำวันที่เขาต้องทำทุกเช้านะคะ อาหารเช้าก็เช่นเดียวกับอาหารมื้ออื่น ที่ต้องมีประโยชน์ เพราะเป็นหนึ่งในสามของวัน อาหารที่ทำให้ลูกน้อยวัยอนุบาลก็เหมือนอาหารเด็กทั่วไปที่ต้องครบคุณค่า ต้องหลากหลายเพราะเด็กๆ เบื่อง่าย และจะพาลไม่กินเอาหากจำเจ ที่ต้องใส่ใจก็คือ ต้องมีนมเพราะลูกจะได้แคลเซี่ยม โปรตีน พลังงาน แต่นมอย่างเดียวไม่อยู่ท้องแน่นอน ต้องมีอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต (แป้ง) อย่างข้าวต้มหรือโจ๊ก แต่เด็กบางคนไม่ชอบกินอาหารเช้าหนักๆ แบบข้าว ก๋วยเตี๋ยว ก็ลองทำสลัดไก่ แซนวิชทูน่าให้ทานดู แต่อย่างไรก็ต้องทานมื้อเช้านะคะ

เมนูอาหารเช้าสำหรับเด็กอนุบาลแบบง่าย ๆ

คุณสามารถเตรียมส่วนประกอบอาหารต่าง ๆ ให้พร้อมเสียตั้งแต่ตอนเย็น หรือบางอย่างทำไว้ให้เสร็จ เพียงนำมาอุ่นตอนเช้า จะช่วยให้ไม่เสียเวลาได้มากเชียวล่ะ ลองดูกันนะคะ

ข้าวต้มหรือโจ๊ก ทำเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเย็น ตอนเช้าก็นำมาอุ่น โรยต้นหอมผักชีอีกเล็กน้อยก็จะได้โจ๊กและข้าวต้มที่ใหม่ หอมอร่อย

ขนมปังปิ้ง 1 คู่ ไข่ดาว 1 ฟอง แถมนมหรือน้ำส้มอีก 1 แก้ว

ข้าวหรือบะหมี่ ผัดใส่ไก่ ใส่หมู ใส่ผัก (เช่น แครอต ถั่วผักยาวหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผักคะน้า) หรือตอกไข่ลงไป ทำให้เสร็จในตอนเย็นแล้วนำมาอุ่นในตอนเช้าได้

แซนวิชยอดฮิตชนิดต่าง ๆ (เป็นขนมปังโฮตวีตได้จะเยี่ยมเลย) ทำแสนง่ายใส่ผักที่ลูกชอบประกบลงไปด้วย ลูกจะได้กินแซนวิชผักที่สดกว่า (ไปซื้อที่เขาผสมให้แล้ว) แถมนมอีกสักแก้ว..เฮ้อ อิ่ม

ข้าวไข่เจียว ง่าย ๆ นี่แหละ ใส่ใบตำลึงลงไปด้วย ลูกก็จะกินมื้อเช้าได้อย่างไม่ขาดสารอาหาร

หากรีบจริง ๆ ลองซีเรียลใส่นมเติมจมูกข้าวลงไปหน่อย กับส้ม 1-2 ลูก อิ่มท้องและได้คุณค่าเหมือนกัน

อาหารเช้าเหล่านี้ ถ้ามีเวลาก็ทานซะด้วยกันที่บ้าน ถ้าไม่มีเวลาก็ใส่กล่องไปทานบนรถหรือไปทานที่โรงเรียนกับลูกก็ได้..ทีนี้อาหารเช้าก็เป็นมื้อที่สำคัญเท่ามื้ออื่นซะที

 

 

ที่มา :  ASTV ผู้จัดการออนไลน์

อ้างอิง: http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/37441